ผู้เฝ้าระวังไฟที่ผ่านการอบรม กับ ไม่มีการอบรม ต่างกันยังไง

by pam
8 views
ผู้เฝ้าระวังไฟที่ผ่านการอบรม กับ ไม่มีการอบรมต่างกันยังไง

“ไฟ” ถือเป็นหนึ่งในปัจจัยเสี่ยงร้ายแรงที่สุดในงานที่เกี่ยวข้องกับความร้อน เช่น การเชื่อม การตัดโลหะ การใช้เครื่องมือช่าง และกระบวนการผลิตที่เกิดเปลวไฟหรือสะเก็ดไฟ งานลักษณะนี้จึงต้องมี “ผู้เฝ้าระวังไฟ” หรือ Fire Watcher คอยดูแลความปลอดภัยตามข้อกำหนดกฎหมายและแนวปฏิบัติของสากล อย่างไรก็ตาม การที่องค์กรมีผู้เฝ้าระวังไฟ แต่ขาดการอบรมอย่างถูกต้อง อาจก่อให้เกิดความเสียหายร้ายแรงทั้งต่อชีวิตและทรัพย์สิน วันนี้ผมจะพามาดูความแตกต่างระหว่าง “ผู้เฝ้าระวังไฟที่ผ่านการอบรม” และ “ผู้เฝ้าระวังไฟที่ไม่ได้อบรม” อย่างชัดเจน

ความหมายของ “ผู้เฝ้าระวังไฟ”

ผู้เฝ้าระวังไฟ (Fire Watcher) คือ บุคลากรที่ได้รับมอบหมายให้เฝ้าติดตามดูแลการปฏิบัติงานที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดไฟไหม้ โดยเฉพาะงานที่มีการใช้เปลวไฟ ความร้อนสูง หรือประกายไฟ เช่น การเชื่อมแก๊ส เชื่อมไฟฟ้า การตัดเหล็ก เป็นต้น โดยหน้าที่สำคัญ คือการป้องกันมิให้เกิดไฟไหม้ และสามารถตอบสนองได้อย่างรวดเร็วเมื่อเกิดเหตุ

ผู้เฝ้าระวังไฟที่ผ่านการอบรม

ผู้เฝ้าระวังไฟที่ผ่านการอบรม: มาตรฐานและความสามารถ

ความรู้ที่ได้รับในการอบรม

  • ความรู้ด้านความปลอดภัย เช่น การระบุพื้นที่อันตราย การควบคุมต้นกำเนิดความร้อน การจัดการสารไวไฟ

  • ทักษะการใช้เครื่องมือดับเพลิง อย่างถูกวิธี เช่น ถังดับเพลิง, สายดับเพลิง, ฉากกันไฟ

  • การตอบสนองต่อเหตุฉุกเฉิน เช่น การแจ้งเหตุ การอพยพ การปฐมพยาบาลเบื้องต้น

  • การทำงานร่วมกับระบบ Work Permit และ Hot Work Permit อย่างมีประสิทธิภาพ

ผลลัพธ์ของการอบรม

  • ลดโอกาสเกิดไฟไหม้จากพฤติกรรมเสี่ยง

  • เพิ่มความสามารถในการควบคุมสถานการณ์เมื่อเกิดเหตุ

  • ทำให้หน่วยงานปฏิบัติตามข้อกำหนดกฎหมายแรงงานและความปลอดภัย

  • ส่งเสริมวัฒนธรรมความปลอดภัยในองค์กร

ผู้เฝ้าระวังไฟที่ไม่มีการอบรม

ผู้เฝ้าระวังไฟที่ไม่มีการอบรม: ความเสี่ยงที่อาจมองไม่เห็น

ปัญหาที่มักพบ

  • ไม่สามารถประเมินความเสี่ยงจากการปฏิบัติงานที่ก่อให้เกิดไฟได้

  • ไม่เข้าใจวิธีใช้เครื่องดับเพลิง หรือใช้ผิดวิธี

  • ไม่มีทักษะในการตัดสินใจและรับมือเหตุฉุกเฉิน

  • เข้าใจผิดว่า “การยืนดู” คือการเฝ้าระวังไฟ

ความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้น

  • การเกิดไฟไหม้จากการเชื่อมงานเพียงไม่กี่วินาที

  • ความเสียหายต่อเครื่องจักร โรงงาน หรืออาคาร

  • การบาดเจ็บหรือเสียชีวิตของผู้ปฏิบัติงาน

  • ความเสียหายต่อชื่อเสียงองค์กร และค่าปรับตามกฎหมาย

กรณีศึกษา: ไฟไหม้จากการเชื่อมงานในพื้นที่ไม่มีผู้เฝ้าระวังไฟที่มีทักษะ

ปี พ.ศ. 2562 มีกรณีไฟไหม้ในโกดังเก็บวัสดุก่อสร้างแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ โดยเกิดจากการเชื่อมโครงเหล็กในพื้นที่มีเศษวัสดุไวไฟสะสม แม้ว่าจะมีผู้เฝ้าระวังไฟอยู่ในพื้นที่ แต่บุคคลดังกล่าวไม่สามารถใช้อุปกรณ์ดับเพลิงได้ทันที และไม่ทราบวิธีแจ้งเหตุ ทำให้ไฟลุกลามอย่างรวดเร็ว ความเสียหายประเมินค่ากว่า 20 ล้านบาท

จากการตรวจสอบพบว่า ผู้เฝ้าระวังไฟไม่ได้รับการอบรม และไม่ทราบวิธีปฏิบัติเมื่อเกิดเพลิงไหม้

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

  • พระราชบัญญัติความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน พ.ศ. 2554

  • ข้อบังคับกระทรวงแรงงาน ว่าด้วยมาตรฐานในการบริหารจัดการด้านความปลอดภัยฯ

  • NFPA 51B: Standard for Fire Prevention During Welding, Cutting, and Other Hot Work ซึ่งกำหนดให้ผู้เฝ้าระวังไฟต้องผ่านการฝึกอบรมเฉพาะทาง

เปรียบเทียบความต่างของผู้เฝ้าระวังไฟที่ผ่านอบรม Vs ไม่ผ่านอบรม

รายการ ผู้เฝ้าระวังไฟที่ผ่านการอบรม ผู้เฝ้าระวังไฟที่ไม่ได้อบรม
การประเมินความเสี่ยง แม่นยำ มีระบบ คาดเดา สุ่มเสี่ยง
ทักษะการใช้เครื่องดับเพลิง ชำนาญ ใช้ผิด ใช้ไม่เป็น
การตัดสินใจเมื่อเกิดเหตุ รวดเร็ว มีขั้นตอน ตื่นตระหนก ขาดทิศทาง
ความมั่นใจของทีมงาน เชื่อถือได้ เกิดข้อกังวล
การปฏิบัติตามกฎหมาย ครบถ้วน มีความเสี่ยงทางกฎหมาย

ข้อเสนอแนะเพื่อความปลอดภัย

  1. องค์กรควรจัดอบรมผู้เฝ้าระวังไฟอย่างสม่ำเสมอ โดยเลือกหลักสูตรที่ผ่านการรับรอง

  2. กำหนดให้การอบรมเป็นข้อบังคับก่อนเริ่มงานเสี่ยง และบันทึกในระบบ Work Permit

  3. ฝึกซ้อมเหตุการณ์จำลอง (Fire Drill) เพื่อประเมินความพร้อมของผู้เฝ้าระวังไฟและทีมงาน

  4. ติดตามและประเมินผลการปฏิบัติงานของผู้เฝ้าระวังไฟเป็นระยะ

สรุป

ความแตกต่างระหว่างผู้เฝ้าระวังไฟที่ผ่านการอบรมกับผู้ที่ไม่มีการอบรม คือความต่างระหว่าง “การป้องกัน” กับ “การรอให้เกิดเหตุ” การลงทุนด้านความรู้และทักษะของผู้เฝ้าระวังไฟจึงเป็นกลไกสำคัญที่ช่วยปกป้องชีวิต ทรัพย์สิน และชื่อเสียงขององค์กร การมี “คน” ที่ถูกฝึกฝนมาอย่างถูกต้อง ย่อมดีกว่าการมีแค่ “ตำแหน่ง” ที่ไร้คุณภาพ

ติดต่อสอบถามอบรมผู้เฝ้าระวังไฟ


อ้างอิง

  1. กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน. (2564). แนวปฏิบัติในการป้องกันอันตรายจากการทำงานที่ก่อให้เกิดไฟ.

  2. NFPA 51B: Standard for Fire Prevention During Welding, Cutting, and Other Hot Work. (2023). National Fire Protection Association.

  3. Occupational Safety and Health Administration (OSHA). (2021). Hot Work Safety.

  4. สมาคมส่งเสริมความปลอดภัยและอนามัยในการทำงาน (ประเทศไทย). (2565). คู่มืออบรมผู้เฝ้าระวังไฟ.


บทความที่น่าสนใจ

เรื่องที่น่าสนใจ

เซฟตี้ .COM ผู้ให้บริการครบวงจรด้านความปลอดภัยในการทำงาน อบรมความปลอดภัย และ ตรวจรับรองวิศวกรรมในโรงงานอุตสาหกรรม

เพิ่มเพื่อน