ปัจจุบันเราจะเห็นข่าวไฟไหม้เป็นจำนวนมาก ซึ่งไฟไหม้ส่วนใหญ่เกิดจากอาคารที่ไม่ใช่ที่พักอาศัย เช่น โรงงาน สานที่ทำงาน ร้านรับซื้อของเก่า เป็นต้น โดยมีหลายปัจจัยที่สามารถเพิ่มโอกาสในการเกิดอัคคีภัยได้ เนื่องจากสถานที่เหล่านี้มีผู้คนจำนวนมาก จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีมาตรการที่เหมาะสมเพื่อลดความเสี่ยงเหล่านี้
สาเหตุของไฟไหม้ที่พบบ่อย
สาเหตุไฟไหม้ที่พบบ่อยในที่ทำงาน ได้แก่
อุปกรณ์ชำรุด
อุปกรณ์ไฟฟ้าที่ชำรุด เช่น สายไฟหลวม หรืออุปกรณ์ที่ชำรุดซึ่งอาจทำให้เกิดความร้อนสูงเกินไปและทำให้เกิดประกายไฟ เป็นสาเหตุทั่วไปของการเกิดไฟไหม้ในที่ทำงาน จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องตรวจสอบและเปลี่ยนอุปกรณ์ในสถานที่ทำงานเป็นประจำเมื่อมีร่องรอยความเสียหายทางไฟฟ้า
ความไม่สะอาดในสถานที่ทำงาน
ความเสี่ยงจากอัคคีภัยทั่วไปที่พบในสถานที่ทำงานหลายแห่ง คือ การขาดการทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ ทำให้อาคารสถานที่ทำงานไม่เป็นระเบียบและรกรุงรัง หากสถานที่ทำงานไม่ได้รับการทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ ทำให้เกิดการสะสมของฝุ่นและคราบไขมันอาจเสี่ยงต่อการเกิดอัคคีภัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเกิดขึ้นในบริเวณที่มีการระบายอากาศไม่ดี ในทำนองเดียวกันสิ่งสกปรกและฝุ่นละอองสามารถสะสมบนเครื่องจักรและอุปกรณ์และทำให้เกิดความร้อนสูงเกินไป ซึ่งอาจทำให้เกิดไฟไหม้ได้หากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่มีการดูแล การตรวจสอบและทำความสะอาดเป็นประจำจะช่วยจำกัดความเสี่ยงจากการเกิดไฟไหม้ได้ รวมถึงความไม่สะอาดในสำนักงาน เช่น รอบโต๊ะและคอมพิวเตอร์อาจทำให้เกิดการสะสมของฝุ่น ซึ่งนำไปสู่ไฟไหม้ได้เช่นกัน
สารติดไฟในสถานที่ทำงาน
วัสดุที่ติดไฟได้ เช่น กระดาษ ไม้ พลาสติก รวมถึงสารเคมีที่มีคุณสมบัติไวไฟ มักจะสะสมอยู่ในสถานที่ทำงานหลายแห่ง หากถูกจัดเก็บอย่างไม่ถูกต้องอาจมีส่วนทำให้เกิดเชื้อเพลิงจำนวนมากและทำให้เกิดไฟไหม้ได้เช่นกัน เพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดไฟไหม้ที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากการจัดเก็บสารติดไฟที่ไม่ถูกต้อง ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้จัดเก็บวัสดุเหล่านี้นอกสถานที่ในภาชนะที่ปิดล็อค และถูกต้องตามข้อกำหนดด้านความปลอดภัย
ข้อผิดพลาดของมนุษย์
เนื่องจากผู้คนจำนวนมากมักจะใช้สถานที่ทำงานเป็นประจำทุกวัน ข้อผิดพลาดของมนุษย์อาจเป็นปัจจัยทั่วไปในสาเหตุของอัคคีภัย ตั้งแต่การใช้อุปกรณ์อย่างไม่ถูกต้อง การไม่รายงานเครื่องจักรที่ผิดพลาด การการกระทำที่เสี่ยงต่อการเกิดอัคคีภัย อุบัติเหตุสามารถเกิดขึ้นได้โดยง่ายหากไม่ได้รับการฝึกอบรมที่เหมาะสม พนักงานทุกคนควรได้รับการฝึกอบรมดับเพลิงขั้นพื้นฐานเพื่อให้แน่ใจว่าสามารถปฏิบัติตามขั้นตอนที่ถูกต้องหากมีเหตุเพลิงไหม้เกิดขึ้น
การลอบวางเพลิง
การลอบวางเพลิงทำให้เกิดไฟไหม้ในสถานที่ทำงานได้และอาจส่งผลร้ายแรงต่อบริษัท ควรติดตั้งอุปกรณ์เพื่อตรวจดูความเรียบร้อย เช่น กล้องวงจรปิดและอุปกรณ์ตรวจจับการเคลื่อนไหว และควรจำกัดการเข้าถึงสถานที่สำหรับบุคคลที่ได้รับอนุญาตเท่านั้นเพื่อลดความเสี่ยงจากการลอบวางเพลิงและที่สำคัญควรมีการติดตั้งอุปกรณ์ป้องกันอัคคีภัย เช่น หัวฉีดน้ำดับเพลิงที่ติดตั้งทั่วทั้งอาคารจะช่วยจำกัดความเสียหายที่จะเกิดขึ้น หากมีเหตุเพลิงไหม้เกิดขึ้น
หากเกิดเพลิงไหม้ต้องทำอย่างไร
อัคคีภัยเป็นอันตรายอย่างยิ่งหากพนักงานไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรเมื่อมีเหตุเพลิงไหม้เกิดขึ้น และหากไม่ได้รับการฝึกอบรมคำแนะนำที่ชัดเจนและถูกต้อง ที่สำคัญพนักงานทุกคนต้องมีส่วนร่วมในการฝึกซ้อมดับเพลิง และ อพยพหนีไฟอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง ตามข้อกำหนดของกฎหมายด้วย เพราะเหตุเพลิงไหม้ในที่ทำงานไม่เพียงทำให้เสียชีวิตเท่านั้น แต่ยังส่งผลถึงการดำรงชีวิตหลังเหตุเพลิงไหม้ด้วย จากสถิติแสดงให้เห็นว่า 59% ของการเรียกร้องจากการหยุดชะงักทางธุรกิจทั้งหมดเป็นผลมาจากไฟไหม้และการระเบิด
จึงควรการป้องกันดีกว่าการแก้ไขหรือรักษาภายหลังการเกิดเหตุขึ้นแล้ว ต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าพนักงานทุกคนรับทราบแผนและขั้นตอนความปลอดภัยจากอัคคีภัยที่มีอยู่ พร้อมทั้งตำแหน่งของถังดับเพลิง ทางหนีไฟ และจุดรวมพล และต้องมั่นใจว่าพนักงานทุกคนได้ฝึกซ้อมดับเพลิงและทดสอบสัญญาณแจ้งเหตุเพลิงไหม้เป็นประจำ เพื่อให้ทราบเส้นทางหลบหนีและความรับผิดชอบของตนกรณีที่มีเหตุเพลิงไหม้เกิดขึ้นจริง
สถานที่ทำงานทุกแห่งมีมาตรการและแผนความปลอดภัยจากอัคคีภัยเฉพาะของตนเอง ดังนั้น ควรทำความคุ้นเคยกับมาตรการเหล่านี้ เพื่อให้ทราบถึงขั้นตอนในการดำเนินการหากเกิดไฟไหม้ในที่ทำงานเกิดขึ้น ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างขั้นตอนการดำเนินการเมื่อมีเพลิงไหม้เกิดขึ้น
ขั้นตอนที่ 1 – กดสัญญาณแจ้งเหตุเพลิงไหม้
เมื่อคุณแน่ใจว่าไม่สามารถดับเพลิงขั้นต้นได้ด้วยตนเองแล้ว ควรส่งสัญญาณเตือนทันทีโดยไม่ต้องคำนึงว่าจะทำให้ผู้คนแตกตื่นหรือเกรงใจ เพราะไฟสามารถลุกลามไปได้อย่างรวดเร็วและทุกๆ วินาทีก็มีค่ายิ่งสามารถระงับเหตุ หรือ แจ้งให้คนอื่นรู้เร็วเท่าไหร่ ความเสียหายหรือสูญเสียยิ่งน้อยเท่านั้นผู้พบเห็นควรโทรไปแจ้งหน่วยดับเพลิงในพื้นที่ พร้อมแจ้งชื่อ ที่อยู่ และข้อมูลที่เป็นประโยชน์ เช่น ประเภทและตำแหน่งของไฟ
ขั้นตอนที่ 2 – อพยพ
การอพยพควรเป็นไปอย่างรวดเร็วและสงบ โดยทุกคนจะเดินเร็วไปยังจุดรวมพลที่กำหนดไว้ ผู้มีหน้าที่ตามที่กำหนดควรปิดเครื่องจักรหรือกระบวนที่เป็นอันตรายตามขั้นตอนการอพยพหนีไฟสำหรับสถานที่นั้นๆ ห้ามหยุดเก็บของส่วนตัวใดๆ และห้ามใช้ลิฟต์เมื่อเกิดไฟไหม้ เนื่องจากลิฟต์อาจหยุดทำงานและอาจติดอยู่ภายในได้ หรือประตูอาจเปิดออกในขณะที่เกิดเพลิงไหม้และทำให้ผู้ที่อยู่ในลิฟต์สัมผัสเปลวไฟ ความร้อน และก๊าซพิษ
ให้มุ่งตรงไปยังทางหนีไฟฉุกเฉินที่ใกล้ที่สุด เอามือแตะประตูทุกบานที่คุณผ่านเพื่อตรวจสอบว่าไฟไม่ได้อยู่อีกด้าน และคนที่ออกมาคนสุดท้ายควรพยายามปิดประตูที่อยู่ข้างหลังเพื่อป้องกันไม่ให้ไฟลุกลามผ่านเข้ามา และหากเส้นทางหนีไฟได้รับผลกระทบจากควัน ให้ทิ้งตัวลงบนพื้นแล้วคลาน เนื่องจากอากาศที่เหลืออยู่จะอยู่ในระดับต่ำ
ขั้นตอนที่ 3 – ไปที่จุดรวมพล
หนึ่งในขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในแผนอพยพหนีไฟ คือ การเลือกจุดรวมพล ตำแหน่งของจุดรวมพลต้องสามารถเข้าถึงได้โดยง่ายและอยู่บริเวณที่ห่างจากตัวอาคาร และเมื่อออกจากอาคารแล้วทุกคนควรพบกันที่จุดรวมพลที่กำหนดไว้ ควรดำเนินการนับจำนวนพนักงาน (หรือการเรียกขานตามชื่อ) เพื่อให้แน่ใจว่ามีทุกคนออกมาจากอาคารหรือสถานที่ที่เกิดไฟไหม้ครบทุกคนแล้ว และไม่ควรกลับเข้าไปในอาคารจนกว่าจะได้รับคำสั่งจากเจ้าหน้าที่ดับเพลิง
สรุป
เพลิงไหม้เป็นเหตุการณ์ที่ไม่มีใครต้องการให้เกิดขึ้นเพราะเมื่อเกิดขึ้นแล้วมักจะส่งผลกระทบเป็นวงกว้างสร้างความเสียหายจำนวนมากเพื่อเป็นการป้องกันก่อนเกิดเหตุควรมีการประเมินความเสี่ยงด้านอัคคีภัยเพื่อกำหนดมาตรการป้องกันและดำเนินการตามมาตรการนั้นอย่างเคร่งครัดและต้องมีการทบทวนทุกปีเพื่อดูว่ามีอะไรเปลี่ยนแปลงไปที่อาจส่งผลต่อการเกิดอัคคีภัยหรือไม่